เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี แนะนำข้อดีข้อเสีย วิธีการเลือกซื้อ 2024
หัวข้อในเนื้อหาที่น่าสนใจ
Toggleในปัจจุบันนั้นสภาพอากาศในบ้านเราย่ำแย่มาก ซึ่งมลพิษทางอากาศกลายเป็นปัญหาสำหรับคนในเมือง หรือแม้แต่คนที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ เพราะมีโรงงาน รถยนต์ การเผาขยะและอื่นๆอีกมากมาย ที่ก็ให้เกิดมลพิษทางอากาศได้ ฉะนั้นการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ สามารถช่วยฟอกอากาศได้อย่างดี ทำให้อากาศภายในบ้านของคุณดีขึ้น เครื่องฟอกอากาศได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดสิ่งปนเปื้อนและมลพิษออกจากอากาศ ทำให้ดีต่อสุขภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นในการสูดดมเข้าไป ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ รวมถึงข้อดีและข้อเสีย ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านไม่มากก็น้อย
วิธีเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2567
1. กำหนดความต้องการของเรา: ก่อนที่จะซื้อเครื่องฟอกอากาศ ให้พิจารณาถึงความต้องการของคุณก่อน คุณกำลังมองหาวิธีกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ฝุ่น สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์อยู่ใช่ไหม? การทำความเข้าใจความต้องการของคุณจะช่วยให้คุณเลือกประเภทเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมได้
2. พิจารณาขนาดห้อง: เครื่องฟอกอากาศได้รับการออกแบบให้ครอบคลุมขนาดห้องโดยเฉพาะ วัดพื้นที่เป็นตารางฟุตของห้องที่คุณต้องการใช้เครื่องฟอกอากาศ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ารุ่นที่คุณเลือกเหมาะสมกับขนาดดังกล่าวหรือไม่
3. ทำความเข้าใจประเภทของตัวกรอง: เครื่องฟอกอากาศใช้ตัวกรองประเภทต่างๆ เพื่อดักจับสารปนเปื้อน ได้แก่ HEPA (หรือที่เรียกว่าแผ่นกรองดูดซับอนุภาคประสิทธิภาพสูง) ถ่านกัมมันต์ และตัวกรองแสง UV-C เลือกประเภทตัวกรองที่เหมาะกับความต้องการของคุณมากที่สุด
4. ระดับเสียง: พิจารณาระดับเสียงของเครื่องฟอกอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณวางแผนที่จะใช้ในห้องนอนหรือพื้นที่สำนักงาน มองหารุ่นที่มีระดับเสียงเบาๆ ซึ่งให้สังเกตุตรงหน่วยเดซิเบล (dB)
5. ประหยัดไฟหรือไม่: ตรวจสอบระดับประสิทธิภาพพลังงานของเครื่องฟอกอากาศเพื่อให้แน่ใจว่าใช้พลังงานน้อยที่สุด รุ่นประหยัดพลังงานช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว อาจจะสังเกตุจากสัญลักษณ์เบอร์ 5
แนะนำ 10 รุ่น เครื่องฟอกอากาศ แบบไหนดี
1. เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier รุ่น AC0650
- เครื่องฟอกอากาศ AC0650 สำหรับห้องขนาด 44 ตร.ม.
- ควบคุมด้วยระบบมือถือได้ สามารถสั่งการผ่าแอป
- เปิดปิดสะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวลืมปิดอีกต่อไป
- ระบบกรอง 2 ชั้น ด้วยระบบ HEPA
- ขนาดกะทัดรัด ด้วยความสูงเพียง 34 เซนติเมตร
- กำจัดฝุ่น PM 2.5 ขนสัตว์ เกสรดอกไม้
2. เครื่องฟอกอากาศ รุ่น HealthProtect™ 7770i
- รองรับขนาดพื้นที่ 62-103 ตร.ม.
- ระดับเสียงเบา เพียง 27-55 เดซิเบล
- แถมไส้กรองฟรี
- ฆ่าเชื้อโรคได้ 99% และกำจัดอนุภาคได้ 99.97%
- ไส้กรอง SmartFilter มี RFID chip แบบเรียลไทม์
- รับประกันมอเตอร์ 5 ปี
3. เครื่องฟอกอากาศ Smart Air รุ่น The Sqair (HEPA)
- ปรับเสียงได้สามระดับ เบา กลาง หนักแรง
- ระดับเสียง 23 – 43 – 52 dBA เครื่องทำงานเงียบ
- กรองอากาศได้ละเอียด โดยเฉพาะอนุภาคขนาด 0.1ไมครอน
- แผ่นกรองอากาศแบบ HEPA
- ตัวกรอง HEPA และแบบที่มี HEPA + Carbon
4. เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite
- ระดับเสียง 33.4-61 dB
- มีตัวเซ็นเซอร์วัด PM 2.5
- สำหรับห้อง ขนาด 25 - 43 ตร.ม.
- ประสิทธิภาพการทำงานค่อนข้างสูง
- หน้าจอการแสดงผลแบบ LED
- ระบบการควบคุมด้วยเสียงอัจฉริยะ และระบบสัมผัส
- กำจัดเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99%
5. เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA-P Plasma
- รุ่น FP-J30TA-P Plasma สีชมพู
- สามารถกรองฝุ่น pm2.5 ได้
- เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ 23 ตร.ม.
- ใช้พลังงานต่ำ ประหยัดไฟ
- ทำงานเงียบ (23dB) ไร้เสียงรบกวน
- เหมาะสำหรับจัดวางภายในห้องนอนและห้องทำงาน
6. เครื่องฟอกอากาศ HAFELE Car Air Purifier
- มี UV-C ช่วยในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อไวรัสและเชื้อรา
- ระบบกรองอากาศ 7 ขั้นตอน ทำให้อากาศบริสุทธิ์
- ปกป้องมลภาวะ PM 2.5
- เหมาะสำหรับรถขนาดไม่เกิน 15 ตร.ม.
- แผ่นกรอง HEPA 2 ชิ้น
- ดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ดี
7. เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS Air Purifier รุ่น AC0820/20
- ระบบ Nano Protect HEPA
- เหมาะสำหรับห้องขนาด 16-49 ตร.ม.
- เสียงในระหว่างทำงานเบาเพียง 35-61 dB(A)
- โหมด Sleep ทำงานอย่างเงียบพิเศษ
- กำจัดอนุภาคขนาดนาโนที่เล็กกว่า 0.003 ไมครอน
- แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์
- ระบบหมุนวนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ
8. TCL Air Purifier เครื่องฟอกอากาศ รุ่น Breeva A1
- ดักจับฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอนได้
- รับประกันสินค้า 1 ปี
- แผ่นกรอง HEPA มีอายุการใช้งาน 3-6 เดือน
- ปรับความเร็วลม เปิดใช้งานโหมด SLEEP ควบคุมแสงสว่างโดยรอบ
- คุณสามารถรีเซ็ตตัวกรองได้
9. PURE AIR ESSENTIAL เครื่องฟอกอากาศ Tefal รุ่น PT2530
- เหมาะสำหรับพื้นที่ 90 ตรม.
- แผ่นกรอง 3 ระดับ
- กรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก
- ออกแบบมาให้มีความกะทัดรัด พกพาง่าย
- กรองแก๊ส ควัน กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
10. เครื่องฟอกอากาศ ELECTROLUX รุ่น EP31-15GYA
- เครื่องฟอกอากาศ รุ่น EP31-15GYA (สีเทา)
- เครื่องฟอกอากาศ รุ่น EP31-15GRA (สีเขียว)
- กำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมได้ถึง 99.9%
- ระดับเสียง อยู่ระหว่าง 43dB
- มีไฟ LED บอกระดับความเร็วพัดลม
ข้อดีข้อเสียของเครื่องฟอกอากาศที่ควรทราบก่อนซื้อ
ข้อดี
1. คุณภาพอากาศที่ดีขึ้น: เครื่องฟอกอากาศช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ ฝุ่น ละอองเกสร ขนของสัตว์เลี้ยง และมลพิษอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อากาศสะอาดขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น ช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือสภาวะทางเดินหายใจ
2. กลิ่นที่ลดลง: เครื่องฟอกอากาศ สามารถกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการทำอาหาร สัตว์เลี้ยง หรือควัน ทำให้บ้านของคุณมีกลิ่นหอมสดชื่นและสะอาด
3. ดักจับไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ: เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อจับและต่อต้านไวรัส รวมไปถึงแบคทีเรียในอากาศด้วย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการเจ็บป่วยได้ดี
4. บรรเทาอาการภูมิแพ้: เครื่องฟอกอากาศช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ทั่วไปได้โดยการดักจับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ เป็นต้น
ข้อเสียของเครื่องฟอกอากาศ
1. ประสิทธิภาพที่จำกัด: แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดอนุภาคในอากาศ แต่ก็อาจไม่สามารถกำจัดมลพิษได้ทั้งหมด เช่น สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) หรือก๊าซ
2. ราคา: เครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูงอาจมีราคาค่อนข้างแพง และยังมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำด้วย
3. เสียงรบกวน: เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นสามารถสร้างเสียงรบกวนได้ อาจจะเป็นปัญหาเวลานอน หรือเด็กที่ไวต่อเสียง ทำให้ตื่นง่าย
มลพิษทางอากาศ คืออะไร
มลพิษทางอากาศหมายถึงการปนเปื้อนในอากาศที่เราหายใจเข้าไปด้วยสารอันตราย ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตโดยรวม นี่เป็นปัญหาระดับโลก ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา
แหล่งที่มาของมลพิษทางอากาศมีอยู่หลายประการ เช่น ทางอุตสาหกรรม ท่อไอเสียรถยนต์ การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล กิจกรรมทางการเกษตร และมลพิษในครัวเรือน แหล่งที่มาเหล่านี้ปล่อยมลพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ อนุภาค และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายออกสู่ชั้นบรรยากาศ
ผลที่ตามมาของมลพิษทางอากาศ ก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ นำไปสู่ปัญหาระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ และแม้แต่โรคเรื้อรัง เช่น มะเร็งปอด และความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด และยังส่งผลกระทบที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฝนกรด และทำให้ชั้นโอโซนลดลง
มนุษย์ทุกคนยังสามารถมีบทบาทสำคัญในการลดมลพิษทางอากาศได้เช่นกัน เช่น การใช้รถโดยสารร่วมกัน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การอนุรักษ์พลังงานที่บ้าน และการกำจัดขยะอย่างเหมาะสม การปลูกต้นไม้และสนับสนุนความคิดริเริ่มที่ช่วยส่งเสริมอากาศบริสุทธิ์และการปกป้องสิ่งแวดล้อม และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของอากาศที่สะอาด เราก็สามารถมุ่งสู่อนาคตที่ดีต่อสุขภาพได้
บทสรุป
การลงทุนซื้อเครื่องฟอกอากาศ อาจจะให้ประโยชน์มากมายกับตัวคุณ รวมถึงคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีขึ้น สารก่อภูมิแพ้ลดลง และการใช้ชีวิตที่สดชื่นยิ่งขึ้น สิ่งแวดล้อม เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการเฉพาะของคุณ ขนาดห้อง ประเภทตัวกรอง ระดับเสียง และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อได้