แนะนำ 10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี พกพาสะดวก ราคาถูกแข็งแรงทนทาน
หัวข้อในเนื้อหาที่น่าสนใจ
Toggleรถเข็นเด็ก เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกของพวกเขามีประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งการเดินเล่นแถวบ้าน รถเข็นเด็กถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในชีวิตประจำวันของครอบครัวที่มีเจ้าตัวน้อย มันไม่เพียงเพียงช่วยให้ลูกของคุณเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณและลูกของคุณอีกด้วย ทำให้คุณและลูกมีโอกาสในการสนทนาและแบ่งปันประสบการณ์ที่น่าจดจำ เช่นการเดินชมสัตว์ที่สวนสัตว์ หรือการเล่นกับเพื่อนๆ ที่ห้างสรรพสินค้า รถเข็นเด็กจะเป็นเครื่องมือที่ทำให้คุณและครอบครัวของคุณสามารถสร้างความทรงจำได้เป็นอย่างดี
รถเข็นเด็กเล่นเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยได้อย่างสะดวกและปลอดภัยในขณะที่ออกไปข้างนอก รถเข็นเด็กมีหลากหลายประเภทและมีคุณสมบัติให้เลือกมากมาย ซึ่งอาจทำให้การเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่เหมาะสมเป็นเรื่องยากได้ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อรถเข็นเด็ก พร้อมทั้งแนะนำประเภทและระบบความปลอดภัยที่รถเข็นเด็กต้องมี เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อรถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดีที่สุด
6 วิธีเลือกซื้อรถเข็นเด็ก
1. กำหนดวัตถุประสงค์การใช้งาน ควรพิจารณาว่าคุณจะใช้รถเข็นเด็กในโอกาสใดบ้าง เช่น ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้เดินทางท่องเที่ยว หรือใช้เฉพาะในห้างสรรพสินค้า การกำหนดวัตถุประสงค์จะช่วยให้คุณเลือกประเภทและขนาดของรถเข็นเด็กพกพาได้เหมาะสม
2. เลือกประเภทรถเข็นเด็ก รถเข็นเด็กมีหลากหลายประเภท เช่น รถเข็นเด็กแบบมาตรฐาน รถเข็นเด็ก 4 ล้อ รถเข็นเด็กแบบพับได้ รถเข็นเด็กแบบวิ่งจ๊อกกิ้ง และรถเข็นเด็กแบบแฝด เลือกประเภทที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ
3. พิจารณาขนาดและน้ำหนัก เลือกขนาดและน้ำหนักของรถเข็นเด็กให้เหมาะ ในเรื่องของความสูงและขนาดน้ำหนักของรถเข็น หากคุณต้องยกหรือพับรถเข็นเด็กบ่อยๆ ควรเลือกรุ่นที่มีน้ำหนักเบา
4. ตรวจสอบคุณสมบัติ รถเข็นเด็กแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ที่นั่งปรับเอนได้ หลังคาบังแดด ตะกร้าเก็บของ และระบบกันสะเทือน พิจารณาคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับคุณและลูกน้อย
5. คำนึงถึงความปลอดภัย ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก หากคุณต้องซื้อรถเข็นเด็กมือสองควรตรวจสอบระบบความปลอดภัย เช่น เข็มขัดนิรภัย เบรก และล้อล็อกได้
6. กำหนดราคา รถเข็นเด็กมีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น กำหนดราคาที่คุณยินดีพร้อมที่จะจ่ายและเลือกซื้อรถเข็นเด็ก เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ากับราคามากที่สุด
รถเข็นเด็ก มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
1. รถเข็นเด็กแบบมาตรฐาน: เป็นรถเข็นเด็กแบบทั่วไปที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
2. รถเข็นเด็กแบบพับได้: เป็นรถเข็นเด็กที่สามารถพับเก็บได้ง่าย เหมาะสำหรับการเดินทางหรือการจัดเก็บในพื้นที่จำกัด
3. รถเข็นเด็กแบบวิ่งจ๊อกกิ้ง: เป็นรถเข็นเด็กที่ออกแบบมาสำหรับการวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย มีล้อขนาดใหญ่และระบบกันสะเทือนที่ดี
4. รถเข็นเด็กแบบแฝด: เป็นรถเข็นเด็กที่ออกแบบมาสำหรับเด็กแฝดหรือเด็กอายุใกล้เคียงกัน มีที่นั่งสองที่นั่งและอาจมีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น ที่นั่งปรับเอนได้แยกกัน
5. รถเข็นเด็กแบบพกพา: เป็นรถเข็นเด็กขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการพกพาหรือการเดินทางระยะสั้น
รถเข็นเด็กแบบ 4 ล้อ
• ได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมที่สุด
• ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี
• แข็งแรงทนทาน
• ทรงตัวได้ดี
• เข็นง่าย
• พื้นที่เก็บของกว้าง
รถเข็นเด็กแบบ 3 ล้อ
• เหมาะสำหรับเด็กเล็กที่ยังไม่ขยับร่างกายมาก
• มีความคล่องตัว
• ปรับหันทิศทางได้สะดวก
• ลดแรงเสียดทานและน้ำหนัก
• เหมาะกับพื้นที่เรียบไม่ขรุขระ
รถเข็นเด็กแบบ 2 ที่นั่ง
• เหมาะสำหรับบ้านที่มีลูกในวัยใกล้เคียงกันหรือลูกแฝด
• สะดวกสำหรับพ่อแม่
• มองเห็นลูกได้ทั้ง 2 คน
• พื้นที่นั่งควรค่อนข้างกว้าง
• ไม่เหมาะกับเด็กที่มีขนาดร่างกายหรือน้ำหนักต่างกันมาก
เลือกซื้อ รถเข็นเด็ก 10 ยี่ห้อ/รุ่น แนะนำ ยอดฮิตแห่งปี ราคาถูก ได้มาตรฐาน
1. รถเข็นเด็ก Oyster MAX สี Pure silver
- รถเข็นสไตล์ยุโรปจากประเทศอังกฤษ
- ล้อใหญ่แข็งแรง สามารถเพิ่มเป็น 2 ที่นั่งสำหรับเด็กแฝด หรือ พี่น้อง
- คุณภาพดีและใช้งานได้นาน
- รองรับ travel system ด้วยการปรับใส่กระเช้าคาร์ซีท 1 หรือ 2 ใบได้
- ดีไซน์สวยเท่ห์ ด้วยวัสดุเนื้อผ้าและด้ามจับหนัง
- ปลอดภัยเพื่อลูกน้อย ล้อใหญ่แข็งแรง ระบบโช้คลดแรงสั่นสะเทือน
Oyster MAX เป็นรถเข็นสไตล์ยุโรปที่มาจากประเทศอังกฤษ มีล้อใหญ่ที่แข็งแรงและสามารถเพิ่มที่นั่งได้สำหรับเด็กแฝดหรือพี่น้อง นับเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีเด็ก 2 คน เพื่อความสวยงามและคุณภาพที่ดี รถเข็นนี้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงน้ำหนัก 20 กิโลกรัม และมีความสามารถในการปรับนอนราบ มีคุณลักษณะโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ระบบโช้คลดแรงสั่นสะเทือนทำให้เด็กปลอดภัย มีที่นั่งสูงและผ้าคลุมที่สามารถขยายออกได้ด้วยคุณสมบัติ 99% UV cut และผ้าระบายอากาศ เครื่องรถยังมีความสะดวกสบายด้วยตะกร้าใหญ่ เข็นได้ 2 ทาง และมีที่นั่งเปลี่ยนหน้าหลังได้ รวมถึงระดับที่พักขาที่สามารถปรับ lock และ unlock ล้อได้ง่ายด้วย
2. รถเข็นเด็ก APRAMO รุ่น EXXPLORE STROLLER สำหรับพ่อแม่ยุคใหม่
- การปรับเอนนอนที่สามารถเอนได้ถึง 175 องศา สามารถปรับตามความสะดวกของเด็ก
- เนื้อผ้า Terylene ที่นุ่มสบายและระบายอากาศได้ดี ป้องกันผิวที่บอบบางของเด็กได้เป็นอย่างดี
- ระบบโช๊คทั้ง 4 ล้อ ช่วยลดการสะเทือนได้เป็นอย่างดี
- รองรับการใช้งานตั้งแต่แรกเกิด - 6 ขวบ (0-22 KG) คุ้มค่า ใช้งานได้นาน
- มาพร้อมการปรับใช้งานได้ 2 ทิศทาง หันหน้าเข้า และหันหน้าออก
- ดีไซน์สวยเรียบหรู มาพร้อมด้ามจับที่สามารถปรับได้ 4 ระดับ
APRAMO EXXPLORE STROLLER เป็นรถเข็นเด็กที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของครอบครัวในยุคใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติที่ทันสมัย เช่น การปรับใช้งานได้ทั้ง 2 ทิศทาง รวมถึงการพับเก็บที่สะดวกสบาย เสริมด้วยโครงสร้างที่คงทนและปลอดภัย และความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับการใช้งาน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มค่าและมั่นใจในทุกการเดินทางของครอบครัวคุณ ลูกของคุณจะได้รับความสบาย ความปลอดภัย และคุณภาพที่ดีในทุกๆ การใช้งาน มาพร้อมกับความสนุกสนานในการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุขของคุณพ่อ คุณแม่ และลูกรักของคุณ
3. รถเข็นเด็กราคาถูก Chicco Trolley Me Stroller
- Chicco Trolley Me Stroller เป็นรถเข็นเด็ก พับเก็บได้ง่าย
- สำหรับทารกและเด็กอายุ 0-22 กก. (4 ปีขึ้นไป)
- เป็นรถเข็นแบบ 2 in 1 ที่สามารถเปลี่ยนเป็นรถเข็นได้
- เป็นแบรนด์ชื่อดังจากประเทศอิตาลี มีความเชื่อถือได้เป็นอันดับ 1
- มาพร้อมกับผ้าคลุมกันฝน เก็บที่บ้านหรือในรถยนต์ได้
- ด้ามจับยาว มีหลังคากันแดดพร้อมช่องมองลูก
Chicco Trolley Me Stroller เป็นรถเข็นเด็กที่มีความสะดวกสบายและง่ายต่อการพกพา พร้อมด้วยคุณสมบัติที่ทันสมัยเหมาะสำหรับทารกและเด็กแรกเกิด มาพร้อมกับด้ามจับยาวที่สามารถลากได้และหลังคากันแดดพร้อมช่องมองลูก ชื่อเสียงของ Chicco ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ทำให้เป็นแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมทั่วโลก สินค้าที่มาพร้อมความหลากหลาย เช่น คาร์ซีท รถเข็น เตียงนอน ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับ รถเข็นเด็กแบบ 2 in 1 สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ตามความต้องการ ด้ามจับที่สามารถปรับขนาดได้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากและสร้างความสบายใจให้กับทั้งเด็กและพ่อแม่ มีคุณสมบัติเด่นๆ เช่น รถเข็นเด็กที่พับเก็บง่ายและสามารถลากได้ บาร์กันตกที่สามารถถอดออกได้สะดวก และเบาะนั่งกว้างพร้อมกับ Support ตรงสายรัดนิรภัยเด็ก รวมถึงตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่ มาพร้อมกับผ้าคลุมกันฝนและมีขนาดพับเก็บที่สะดวกสบาย
4. รถเข็นเด็ก 2 ที่นั่ง Qtus รุ่น DuetPro Stroller
- รถเข็นแฝด สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ที่นั่งใน 1 คัน
- มีระบบ soft drive เพื่อการเข็นได้สะดวกและนุ่มนวลบนทุกพื้นผิว
- การออกแบบโครงสร้าง Triangle ที่แข็งแรงและรองรับน้ำหนักได้มากถึง 30 kg
- รถเข็นพับ พกพาง่าย สะดวกต่อการเดินทาง
- ใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิด และรองรับการปรับเปลี่ยนเป็นที่นั่งเดียวได้
- ดีไซน์เรียบหรู สไตล์เยอรมัน
Qtus DuetPro Stroller เป็นรถเข็นเด็กที่มีคุณสมบัติทันสมัยและสะดวกสบายทั้งสำหรับเด็กแฝดหรือพี่น้อง มีการออกแบบให้เหมาะสำหรับการใช้งานตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงวัยเด็กโต ด้วยเบาะที่นั่งที่สามารถปรับได้ 2 ทิศทาง หันหน้าเข้าหรือหันออกได้ตามความสะดวก พร้อมพับเก็บได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เรียบหรูในดีไซน์และสไตล์เยอรมัน มาพร้อมระบบ soft drive ที่ทำให้การเข็นเป็นเรื่องง่ายและสบายตา ไม่มีการสะเทือนสั่น และแรงกระแทก มีระบบเบรกคู่หลังที่ให้การเบรกอย่างนุ่มนวล และมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของเด็ก เป็นรถเข็นที่ได้รับรางวัล IF gold award และมีมาตรฐาน EURO Tested : EN 1888 ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัย
5. รถเข็นเด็ก 2 ที่นั่ง รุ่น Keenz Kinetic Double Seat
- สำหรับเด็ก 2 ที่นั่งในแบบ Fullsize มีเบาะที่นั่งใหญ่ ให้เด็กนั่งสบายๆ
- เหมาะกับเด็กแรกเกิด เด็กแฝดหรือพี่น้องที่อายุไม่เกิน 8 ขวบ
- เบาะที่นั่งสามารถปรับได้สองทิศทางและสลับตำแหน่งเบาะขึ้นลงได้อิสระ
- รองรับการติดตั้ง Baby carry cot และ carseat แบบตะกร้าได้ทั้งสองตำแหน่ง
- โครงสร้างรถเข็นเกรดเดียวกับอากาศยาน แข็งแรงและมั่นคง
- ล้อและยางผลิตจาก PU ที่มีความแข็งแรง นิ่มนวล
รถเข็น Keenz Kinetic Double Seat มาพร้อมกับความสะดวกสบายและคุณภาพเยี่ยมสำหรับเด็ก 2 ที่นั่งในรูปแบบ Fullsize ที่มีเบาะที่นั่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้เด็กนั่งสบายๆ ทั้งสองที่นั่ง สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด และเหมาะสำหรับเด็กแฝดหรือพี่น้องที่อายุไม่เกิน 8 ขวบ เบาะที่นั่งสามารถปรับได้สองทิศทางและสลับตำแหน่งเบาะขึ้นลงได้อิสระ รองรับการติดตั้ง Baby carry cot และ carseat แบบตะกร้าได้ทั้งสองตำแหน่ง รับน้ำหนักได้สูงสุด 25 kg. และมีความสูงจากพื้นมากถึง 45 cm ที่เป็นความสูงปกติของรถเข็นทั่วไป (การพับเก็บเมื่อติดตั้งเบาะที่นั่งทั้งสองที่นั่ง จะต้องถอดการติดตั้งเบาะด้านล่างทุกครั้งก่อนการพับ) เมื่อโครงรถพับแล้วสามารถตั้งได้ โครงสร้างรับแรงแบบโครงคู่ให้ความนิ่มนวลและมั่นคงเมื่อใช้งาน
6. รถเข็นเด็กพับได้ Cooper รุ่นคูเปอร์ คลาสสิค
- เบาะปรับนอนราบใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ขวบ
- รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 60 kg
- ระบบพับและลากออกมาใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
- เฟรมสี Black Anodizing ทนทาน และหรูหรามากขึ้น
- ตะกร้าใส่ของด้านล่างมีขนาดใหญ่พอที่จะจุของได้เยอะมาก
- ล้อใหญ่ขนาดใหญ่ช่วยให้การเดินทางไม่สะดุด
Cooper รถเข็นเด็กรุ่นคูเปอร์ คลาสสิค New2023 เป็นรถเข็นเด็กที่สามารถพับได้ มาพร้อมกับของแถมมากมาย และรับประกันจากศูนย์บริการซึ่งเป็นที่รู้จักด้านความเชื่อถือได้ ตะกร้าด้านล่างมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะจุของได้เยอะ การปรับเปลี่ยนเป็นโหมดพับมีความสูงที่สูงขึ้น และมีช่องหิ้วด้านข้าง ในส่วนของเบาะสำหรับนอนมีความสะดวกสบายสำหรับเด็กตั้งแต่เกิดถึงอายุ 5 ขวบ รองรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 60 กิโลกรัม มีระบบระบายอากาศและช่องมองให้ดูแลเด็กได้อย่างมีสบาย มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุดและระบบเบรค single brake ตามมาตรฐาน EN1888 สะดวกต่อการพกพา และมีน้ำหนักเบาเพียง 6.8 กิโลกรัม
7. รถเข็นเด็ก GLOWY รุ่น Black Panther ll
- รถเข็นเด็กนวัตกรรมใหม่ที่พับเองอัตโนมัติ ไม่เปลืองแรง
- รับน้ำหนักได้ถึง 22 กิโลกรัม
- มีคุณสมบัติเด่นเช่นระบบ Auto Fold ระบบเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด
- อุปกรณ์เสริมฟรี เช่น มุ้งกันยุง ที่กันฝนและลม และที่วางแก้ว
- โครงรถแข็งแรงมั่นคง สะดวกในการพกพา
- การปรับเอนนอนได้ถึง 170 องศา
GLOWY รถเข็นเด็ก รุ่น Black Panther II เป็นเลือกที่ดีสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 4 ขวบหรือน้ำหนักไม่เกิน 22 กิโลกรัม มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากมายที่จะทำให้การเดินทางของคุณและลูกน้อยมีความปลอดภัย มาพร้อมกับระบบพับเองอัตโนมัติที่ไม่เปลืองแรง คันใหญ่ เข็นลื่น แข็งแรง และนั่งสบาย โครงสร้างทนทาน ล้อหน้าหมุนได้ 360 องศา มาพร้อมกับโครงสร้างที่มีพนักพิงหลังและความสามารถในการปรับเอนนอนได้ถึง 170 องศา ทำให้เด็กนั่งหรือนอนหลับได้อย่างสบายใจและพร้อมลุยทุกเมื่อ
8. รถเข็นเด็ก Fico รุ่น OHIO NEW
- ให้ความสบายและความปลอดภัยสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน
- รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 30 กิโลกรัม
- เบาะรองนั่งขนาดใหญ่มีฟองน้ำนุ่ม
- มีอิสระในการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น
- มีที่บังแดดที่ใหญ่และปรับได้หลายระดับเพื่อปกป้องผิวลูกน้อยจากแสงแดด
- มุ้งกันยุงขนาดใหญ่ช่วยปกป้องลูกน้อยไม่ให้ถูกยุงหรือแมลงรบกวน
รถเข็นเด็ก Fico รุ่น OHIO NEW: D289New มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทันสมัยและดีเยี่ยมที่จะทำให้การดูแลลูกน้อยของคุณเป็นเรื่องสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อให้คุณมั่นใจในการใช้งานในระยะยาว เบาะรองนั่งขนาดใหญ่ที่มีฟองน้ำนุ่ม และผ้านุ่มขึ้น 40% ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายและมีอิสระในการเคลื่อนไหวอย่างสมบูรณ์ พนักพิงหลังสามารถปรับระดับได้ตามความต้องการ และสามารถเอนนอนได้สูงถึง 170 องศา เพื่อให้ลูกน้อยได้รับการสนับสนุนและสบายหลังในทุกท่าทาง มาพร้อมกับผ้าตาข่ายด้านหลังที่ช่วยระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยร้อนขณะหลับ มีที่บังแดดที่ใหญ่และปรับได้หลายระดับ เพื่อปกป้องผิวลูกน้อยจากแสงแดด ลูกน้อยได้รับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มุ้งกันยุงขนาดใหญ่ช่วยปกป้องลูกน้อยของคุณไม่ให้ถูกยุงหรือแมลงรบกวน เหมาะสมที่สุดในทุกการเดินทางและการผจญภัย
9. รถเข็นเด็ก Baobaohao เข็น 2 ฝั่ง
- เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป และรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 15 กิโลกรัม
- เบาะหมุนได้ 360 องศาและเข็นได้ทั้งหน้าและหลัง
- เบาะพิงนุ่มและทรงไข่ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัย
- รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทันสมัยและคุ้มค่า
- ระบบพับเก็บได้ สะดวกต่อการพกพา มีน้ำหนักเพียง 5.7 กิโลกรัมเท่านั้น
- ปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัยล็อค 5 ชั้น
Baobaohao ST-V7 มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ทันสมัยและคุ้มค่าที่สุด สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป และรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 15 กิโลกรัม โดยมีขนาดความจุแบบเดี่ยว และเบาน้ำหนักเพียง 5.7 กิโลกรัมเท่านั้น ขนาดกะทัดรัด พับเก็บได้ และใช้งานได้หลากหลาย ทั้งที่นั่งหันหลังที่ทันสมัย และมีเบาะที่หมุนได้ 360 องศา เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ระบบปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ซึ่งมีเข็มขัดนิรภัยล็อค 5 ชั้นและล้อยางนุ่มนวลที่ใช้เดินได้สะดวกบนทุกพื้นผิว มีการออกแบบพิเศษเพื่อความสะดวกสบายของลูกน้อย เช่น ที่พักเท้า 2 ชั้นสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต และรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 15 กิโลกรัม ทำให้การเดินทางของคุณและลูกน้อยเป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยทุกเส้นทาง
10. รถเข็นเด็ก Grace Kids รุ่นแกรนดัวร์
- โครงสร้างแข็งแรงทนทาน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
- เบาะถอดซักได้และสามารถปรับเอนนอนได้ถึง 180 องศา
- มาพร้อมตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่ พื้นที่ในการเก็บของมากขึ้น
- รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 25 กิโลกรัม
- ระบบล็อคล้อด้านหลัง 2 ล้อและล้อหน้าเป็นล้อคู่หมุนได้รอบทิศทาง
- มีหลังคาที่กว้างสูงโปร่ง สามารถพับเก็บได้
รถเข็นเด็กรุ่นแกรนดัวร์จาก Grace Kids เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทางกับลูกน้อยของคุณ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและการออกแบบที่พิถีพิถัน รถเข็นนี้มีโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทานทำให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยของลูกน้อยขณะใช้งาน และสามารถปรับเอนนอนได้ถึง 3 ระดับเพื่อให้ลูกน้อยได้พักผ่อนอย่างสบายใจ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานและการเก็บรักษา รถเข็นนี้สามารถพับเก็บได้ มีขนาดเล็กกระทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก และมีตะกร้าขนาดใหญ่ด้านล่างที่สามารถจุของได้มากพร้อมกับมีประเป๋าใส่ของด้านหลังรถเข็น นอกจากนี้ รถเข็นยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอีกมากมาย เช่น มีเข็มขัดนิรภัย เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อย และมีตาข่ายที่สามารถดูลูกน้อยได้
5 ระบบความปลอดภัยที่รถเข็นเด็กต้องมี
1. เข็มขัดนิรภัย: เป็นระบบความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ช่วยป้องกันเด็กหลุดออกจากรถเข็นเด็ก
2. เบรก: ช่วยล็อกล้อรถเข็นเด็กเพื่อป้องกันไม่ให้รถเข็นเด็กเคลื่อนที่เอง
3. ล้อล็อกได้: ช่วยล็อกล้อหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้รถเข็นเด็กหมุนเอง
4. สายรัดข้อมือ: ช่วยป้องกันไม่ให้รถเข็นเด็กหลุดมือในขณะที่คุณกำลังเข็น
5. หลังคาบังแดด: ช่วยปกป้องเด็กจากแสงแดดและรังสียูวี
บทสรุป รถเข็นเด็ก
การเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยการพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น วัตถุประสงค์การใช้งาน ประเภทรถเข็นเด็ก ขนาดและน้ำหนัก คุณสมบัติ ความปลอดภัย และราคา จะช่วยให้คุณเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างมั่นใจ อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และตรวจสอบระบบความปลอดภัยของรถเข็นเด็กอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ตอบ รถเข็นเด็กเหมาะสำหรับเด็กที่สามารถนั่งได้แล้ว ปกติจะใช้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป
ตอบ รถเข็นเด็กควรมีส่วนประกอบที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับเด็ก เช่น สายรัดที่ปลอดภัย, ล้อที่มีระบบเบรค, และเข็มขัดนิรภัย
ตอบ รถเข็นเด็กมักจะมีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักไม่เกิน 15-25 กิโลกรัม
ตอบ สามารถทำความสะอาดรถเข็นเด็กโดยใช้ผ้าชุบน้ำ หรือผ้าเช็ดอ่อนๆ ล้างหรือฉีดน้ำ โดยใช้น้ำยาล้างที่เหมาะสมไม่เป็นอันตราย
ตอบ รถเข็นเด็กมักมีล้อที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้งบนพื้นที่เรียบและพื้นผิวราบ แต่ไม่ควรนำไปใช้ในพื้นที่ที่มีความลาดชันมากเกินไป