กรีกโยเกิร์ต คืออะไร แนะนำสูตรทำ Greek Yogurt และประโยชน์
หากเราพูดถึง กรีกโยเกิร์ต ภาษาอังกฤษ Greek Yogurt คุณอาจสงสัยว่ามันแตกต่างอย่างไรจากโยเกิร์ตธรรมดา และในวันนี้เราจะมาบ่งบอกความแตกต่างระหว่างสองแบบนี้กัน แน่นอนว่าหลายคนเคยกินโยเกิร์ตแบบธรรมดาไปแล้ว ซึ่งวันนี้ darkspoil จะพามาเรียนรู้และหาคำตอบกันว่าระหว่างกรีกโยเกิร์ตและโยเกิร์ตธรรมดา มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจจะทำให้คุณได้รู้มากยิ่งขึ้น
ความแตกต่างของ กรีกโยเกิร์ต คืออะไร
ทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันระหว่างปริมาณโปรตีนและโปรไบโอติกส์ ซึ่งโยเกิร์ตธรรมดาและกรีกโยเกิร์ตมีส่วนประกอบหลักคือ นมและแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้กรีกโยเกิร์ตแตกต่างออกไป ก็คือการดูดน้ำและเวย์ออกจากโยเกิร์ต โดยเวย์เป็นของเหลวที่ประกอบไปด้วยโปรตีนและแลคโตส การดูดน้ำและเวย์ออก จะช่วยให้เนื้อโยเกิร์ตในกรีกโยเกิร์ตมีความเข้มข้นมากกว่าในโยเกิร์ตธรรมดา และที่สำคัญไปกว่านั้นทำให้มีปริมาณโปรตีนและโปรไบโอติกส์ที่สูงขึ้น
เมื่อพิจารณาปริมาณโปรตีนและโปรไบโอติกส์ กรีกโยเกิร์ตมีมากกว่าโยเกิร์ตธรรมดา ซึ่งทำให้มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก การดูดน้ำและเวย์ออกทำให้กรีกโยเกิร์ตมีความเข้มข้นและเต็มไปด้วยประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่กำลังลดหุ่น เพราะมีโปรตีนสูง ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญที่ดีได้
ดังนั้น กรีกโยเกิร์ตจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการโปรตีนและโปรไบโอติกส์ที่มีคุณค่า และอาจมากับรสชาติที่เข้มข้นมากกว่าโยเกิร์ตธรรมดา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและรสนิยมของคุณ แต่ถ้านำไปแช่เย็นแล้วนำออกมารับประทานละก็ บอกเลยว่าอร่อยใช้ได้ เพราะสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอาเอง และก็ไม่ควรทิ้งการออกกำลังกายด้วย จะช่วยให้ลดน้ำหนักและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้
วิธีทำ Greek Yogurt แบบง่ายๆและอร่อยด้วยนะ
กรีกโยเกิร์ต วิธีทํา คุณอาจจะเคยสงสัยว่าการทำ Greek Yogurt นั้นยากหรือเปล่า? วันนี้เรามีวิธีทำให้ง่ายๆ ที่คุณสามารถลองทำเองได้ที่บ้าน พร้อมแชร์เคล็ดลับเพิ่มเติม
ส่วนผสมที่คุณต้องใช้
- นมพาสเจอร์ไรส์รสจืด 830 มิลลิลิตร หรือคุณก็สามารถใช้นม UHT รสจืดจากโรงเรียนได้เช่นกัน
- กรีกโยเกิร์ต ยี่ห้อไหนดี เลือกโยเกิร์ตรส Original 150 กรัม
ขั้นตอนการทำ
- เริ่มจากนำนมใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อน ๆ และคนตลอดเวลาเพื่อให้ไม่มีนมติดก้นหม้อ ต้มนมจนได้อุณหภูมิที่ 80 องศาเซลเซียส พออุณหภูมิได้ที่แล้วให้ลดไฟลงและต้มต่ออีก 5 นาที เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจอยู่ในนม
- ทำการปิดไฟและปล่อยให้นมเย็นลง โดยสามารถจับหม้อโดยการใช้มือ ถ้ามือคุณไม่เป็นอะไร สามารถจับได้นานๆ แสดงว่าใช้ได้แล้ว
- คนโยเกิร์ตรส Original ในถ้วยจนเนื้อเนียน และผสมกับนมเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เนื้อเนียนขึ้น หลังจากนั้นเทโยเกิร์ตที่ผสมกันลงในหม้อ และคนให้เข้ากัน
- ปิดฝาหม้อและเก็บไว้ในที่ปิด เช่นกล่องโฟมหรือเตาไมโครเวฟ ทิ้งไว้ประมาณ 8 – 12 ชั่วโมง
- เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะได้ Greek Yogurt ที่เนียน อร่อยพร้อมทานเลยทีเดียว
- หากคุณต้องการให้เป็นกรีกโยเกิร์ต นำตะแกรงวางบนภาชนะและใส่ผ้าขาวบางลงไป วางโยเกิร์ตบนผ้าขาว แล้วนำไปเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา ประมาณ 8 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำออกจากโยเกิร์ต น้ำที่ได้เรียกว่าเวย์สามารถนำไปใช้รวมกับเครื่องดื่มรสเปรี้ยว หรือใช้ทำอาหารต่างๆ ได้
- กรีกโยเกิร์ตที่ได้จะมีเนื้อเนียน ข้น และรสชาติออกเปรี้ยว เหมือนครีมชีสที่มีความอร่อยอย่างสูง
แล้วทำเสร็จแล้วบางคนอาจจะสงสัยว่า กรีกโยเกิร์ต กินตอนไหนดี ขอแนะนำเป็นช่วงเช้าจะดีมาก ก่อนรับประทานอาหารเช้า จะช่วยเรื่องระบบขับถ่ายด้วย
แบ่งปันสูตรโยเกิร์ต ที่แสนง่ายอีกหนึ่งสูตร
ถ้าคุณต้องการแชร์ความสุขของการทำโยเกิร์ตกับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวที่บ้าน วันนี้เรามีสูตรง่ายๆ สำหรับคุณ สามารถแบ่งปันและให้เพื่อนทำเองได้อย่างง่ายดาย มาดูขั้นตอนการทำโยเกิร์ตกัน
วัตถุดิบที่คุณต้องใช้
- นมสด
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ สามารถใช้ยี่ห้อไหนก็ได้ แต่แนะนำรส Original
ขั้นตอนการทำโยเกิร์ต
- ใส่นมลงในกล่องเก็บอาหาร และให้นำกล่องไปใส่ในไมโครเวฟและใช้ไฟอ่อนๆ ประมาณ 1-2 นาที ไม่จำเป็นต้องทำให้นมร้อนถึงขั้นเดือด
- ทดสอบความร้อนของนมโดยใช้นิ้วจุ่มลงไป ถ้าความร้อนที่คุณรับได้ก็เหมาะกับการใช้แล้ว
- ตักโยเกิร์ตลงไปเลย คนให้โยเกิร์ตเข้ากัน และปิดฝา จากนั้นปล่อยไว้ในอุณหภูมิห้อง และห้ามขยับหรือให้โดนแสงแดด ทิ้งไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง
- ในวันถัดไป โยเกิร์ตของคุณจะเติมเต็มด้วยความนุ่มนวลและอร่อยรับประทานได้เลย Enjoy
สำหรับคนที่ชอบกรีกโยเกิร์ต
หากคุณต้องการทานกรีกโยเกิร์ต คุณสามารถนำผ้าขาวบางไปต้มและตากแดดให้แห้งก่อน จากนั้นนำโยเกิร์ตที่คุณทำไว้เทลงไปในผ้า จากนั้นนำผ้าไปเก็บในตู้เย็นเป็นเวลา 4-7 ชั่วโมง
เมื่อเวลาผ่านไปคุณก็จะได้กรีกโยเกิร์ตที่นุ่มนวล และรสชาติอร่อยพร้อมทานคู่กับขนมปังหรือผลไม้
ประโยชน์ของกรีกโยเกิร์ต ที่คุณอาจไม่รู้ และข้อเสีย
คุณเคยสงสัยไหมว่ากรีกโยเกิร์ตนั้นจะต้องมีประโยชน์อะไรมากมาย วันนี้มาเรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ที่คุณจะได้รับ พร้อมกับข้อเสีย มีอะไรบ้าง เราลองไปชมกันเลย
ข้อดีของกรีกโยเกิร์ต
1. มีน้ำตาลและแป้งที่น้อยลง
แน่นอนว่าเป็นผลดีต่อคนที่กำลังลดน้ำหนักอย่างแน่นอน ถ้าคุณกำลังรักษาสุขภาพหรือตามหาทางลดน้ำตาลและแป้ง กรีกโยเกิร์ตคือสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ ด้วยการถูกดึงออกพร้อมกับน้ำ เวย์ และอื่นๆ เนื้อกรีกโยเกิร์ตจึงเข้มข้นและมีน้ำตาลและแป้งน้อยลง ทำให้คุณได้เพลิดเพลินในรสชาติและได้รับประโยชน์สูงสุด
2. เต็มไปด้วยความเข้มข้นของโปรตีน
ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลในโปรตีน กรีกโยเกิร์ตคือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด มันมีโปรตีนมากกว่าโยเกิร์ตธรรมดา ทำให้คุณรู้สึกอิ่มและพลุกพล่านมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคุณที่กำลังตามหาแหล่งโปรตีนให้ครบถ้วนในอาหารของคุณ กรีกโยเกิร์ต กินกับอะไรก็อร่อยแนะนำเป็นขนมปังลองดูกัน
3. ควบคุมโซเดียมอย่างถูกต้อง
กรีกโยเกิร์ตเหมาะสำหรับคุณ ที่ต้องการรักษาน้ำหนักหรือควบคุมความดันโลหิต มันมีโซเดียมต่ำกว่าโยเกิร์ตธรรมดา ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องโซเดียมเกินไป เพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรีกโยเกิร์ต ข้อเสีย มีอะไรบ้าง
กรีกโยเกิร์ต ข้อเสียเมื่อพูดถึงกรีกโยเกิร์ตที่มีความเข้มข้น ก็ยังมีข้อเสียบางอย่างที่คุณควรทราบ
1. การสูญเสีย แคลเซียม ที่ลดลง
ความเข้มข้นของกรีกโยเกิร์ตทำให้มีแคลเซียมน้อยกว่าโยเกิร์ตธรรมดา นั่นเป็นเพราะแคลเซียมถูกดึงออกพร้อมกับน้ำและเวย์ อย่างไรก็ตามหากคุณมีเสริมแคลเซียมในอาหารอื่นๆ ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
2. ระดับคอเลสเตอรอลที่สูงขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อเนื้อกรีกโยเกิร์ตมีความเข้มข้นมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือการมีคอเลสเตอรอล ที่สูงกว่าทั่วไป เพราะฉะนั้นควรเลือกตัวโยเกิร์ตแบบ 0% มาใช้ในการทำแทน
3. ความสะดวกในการหาซื้อยังไม่มากพอ
ต้องบอกเลยว่ากรีกโยเกิร์ตอาจจะยังไม่ค่อยพบได้ง่ายเท่าโยเกิร์ตธรรมดา และอาจพบว่ามีราคาสูงกว่าเล็กน้อย กรีกโยเกิร์ตนั้นถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณที่ต้องการสุขภาพที่ดีและความอร่อยในเวลาเดียวกัน
ความเป็นมาของกรีกโยเกิร์ต ในประวัติศาสตร์
การไต่ถิ่นฐานทางประวัติศาสตร์ของกรีกโยเกิร์ตนั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการพบความเชื่อที่ว่าโยเกิร์ตมีการใช้งานอย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคเมโสโปเตเมีย หรือประมาณ 7,000 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งการเกิดของโยเกิร์ตไม่ได้เกิดขึ้นจากการวางแผนมาก่อนหน้า แต่เป็นผลมาจากการนำลำไส้ของสัตว์มาเก็บรักษาน้ำนมไว้นั่นเอง
มีการพบหลักฐานจากประวัติศาสตร์ เพราะในอดีตคนมักจะใช้ลำไส้ของสัตว์เพื่อเก็บรักษาน้ำนมเอาไว้ และเมื่อลำไส้เหล่านี้มีแบคทีเรียอาศัยอยู่ และพบว่ามีอุณหภูมิสูง น้ำนมที่เก็บไว้ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นโยเกิร์ต ทำให้เกิดการแปรรูปสารเคมีภายใน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการมีโยเกิร์ตเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่เรารับประทานในปัจจุบัน
และด้วยความพิเศษที่โยเกิร์ตนั้นเกิดขึ้นได้โดยบังเอิญ ความน่าสนใจในการใช้งานและบริโภคก็เพิ่มมากขึ้น โยเกิร์ตเริ่มเป็นที่นิยมในวงกว้าง และได้รับความสนใจจากผู้คนตลอดเวลา และกลายเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จนในปัจจุบัน โยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีความนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั้งในการบริโภคแบบเดี่ยวหรือผสมผสานกับอาหารอื่น นอกจากนี้ยังมีการนำโยเกิร์ตมาใช้ เป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย
ด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและความสำคัญในการบริโภคในปัจจุบัน โยเกิร์ตกลายเป็นอาหารที่ทุกคนรู้จักและได้รับประโยชน์จากส่วนประกอบที่มีคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน
คำถามที่พบบ่อย FAQ
1. กรีกโยเกิร์ตและการทานโยเกิร์ต มีประโยชน์หรือไม่?
ตอบ : โยเกิร์ตคืออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีผลกระทบต่อสุขภาพที่ดี มีโปรตีนสูง มีไขมันดี
2. กรีกโยเกิร์ตช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอย่างไร?
ตอบ : การบริโภคโยเกิร์ตช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย
3. โยเกิร์ตสามารถส่งเสริมกระบวนการย่อยอาหารได้อย่างไร?
ตอบ : โยเกิร์ตมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การบริโภคโยเกิร์ต ช่วยเพิ่มปริมาณแคลเซียมในร่างกายได้อย่างไร?
ตอบ : โยเกิร์ตเป็นแหล่งของแคลเซียมที่สำคัญ ช่วยในการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
5. โยเกิร์ตช่วยป้องกันมะเร็งได้ไหม?
ตอบ : ในโยเกิร์ตมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระในเซลล์ ช่วยลดความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมและการเครียด
6. โยเกิร์ตสามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่?
ตอบ : การบริโภคโยเกิร์ตเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมน้ำหนัก ช่วยเพิ่มความสมดุลในร่างกายและลดความอยากอาหาร